การละหมาด ในมุมมองของ YAOHAREE LAHTEE Nikah Specilaist


ในแต่ละวัน หรือตลอดช่วงชีวิต เราต่างต้องรับมือกับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้มากมาย เราควบคุมการกระทำคนอื่นไม่ได้ ควบคุมสิ่งต่างๆไม่ได้ ควบคุมแม้แต่ตัวเรา หรือความคิดเราไม่ได้ ในบ่อยครั้ง เมื่อโลกไม่ได้เป็นดังใจ ชีวิตไม่ได้ เป็นดังใจ รอยแผลต่างๆสะสมมาเรื่อยๆตามช่วงอายุของแต่ละคน
ความสงบสุข  เป็นสิ่งที่มีค่า และมีความสำคัญสำหรับมนุษย์ทุกเผ่าพันธ์ทุกชาติกำเนิด  การเริ่มต้นเมื่อลืมตาตื่นด้วยความสงบ และ เข้านอนด้วยความสงบ นอกจาก ช่วยปรับอารมณ์ต่างๆ แล้ว ยังมีผลต่อเนื่องต่อสุขภาพกาย ความสัมพันธ์ในครอบครัว ชีวิต และ แม้แต่ประสิทธิภาพการทำงาน หรือ การพัฒนาตัวเอง และสังคม

ความสงบสุขเป็นสิ่งมีค่า และ ศิลปะของผู้เป็นมุสลิมนั้น คือ การใช้การละหมาดเป็นเครื่องมือ ทั้งโดยรู้ตัวไม่รู้ตัว

การละหมาด เป็นกิจกรรมที่สามารถจัดช่วงเวลาได้ในเวลาที่เหมาะสม 3 นาที-10 นาที ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ปรับเปลี่ยนช่วงเวลาได้ ชดเชยได้ การละหมาดเป็ฯเครื่องมือที่ยืดหยุ่น และปรับใช้กับชีวิต ผู้ที่เป็นวิสัญญีแพทย์หรือ นักบินได้ ขึ้นอยู่กับการวางแผนจัดการ

การละหมาด ขอให้มนุษย์ ดำเนินขั้นตอนอะไรบ้าง

1.สะอาด และมีสติในการทำความสะอาด ศิลปะ การอาบน้ำละหมาดนั้น มีการขอให้ เราตั้งเจตนารู้สึกตัวว่ากำลังทำอะไร มีลำดับขั้นตอนให้แน่ใจว่ แต่ละขั้นตอนนั้น ครบถ้วนส่วนต่างๆที่สำคัญ ผู้ที่เอาน้ำละหมาดอย่างสงบ จะมีสติรู้ตัว และ ทำสิ่งต่างๆตามลำดับขั้นตอน การล้างหน้าตา ล้างส่วนต่างๆของร่างกายนั้น นอกจากป้องกัน ภาวะสะสมคามร้อนซึ่งมีความเสี่ยงต่อชีวิตในช่วงหน้าร้อนแล้ว ยังสร้างความสดชื่นให้กับ ผู้เอาน้ำละหมาด  นึกถึงเวลาที่เรามีเรื่องทุกข์ใจ การได้ล้างหน้าล้างตานั้นก็มีส่วนช่วยอย่างมากแล้ว รวมทั้งลดภาวะง่วงนอน หรืออื่นๆ ที่อาจอยู่ในช่วงที่ไม่เหมาะสมกับการนอนหลับ

2 ทบทวนศีลธรรม .ขั้นตอนการละหมาดนั้น ส่วหนึ่งคือ การอ่าน ทบทวนคัมภีร์ อัลกุรอาน ซึ่งเป็นวจนะของพระเจ้าในการย้ำเตือนให้มนุษย์นั้น ทำดีต่อตัวเอง ทำดีต่อส่วนรวม ทุกชาติศาสนา และชาติพันธ์ และเตือนสติว่า ชีวิตในโลกนี้นั้น ไม่ได้ยืนยาวให้ยึดถือ และจงเร่งทำความดีต่อกัน เพื่อสะสมเป็นเสบียงไว้ใน ปลายทางถัดไป

3.เคลื่อนไหว ขั้นตอนการละหมาดนั้น ยังขอให้ ผู้มุสลิม ขยับเขยื้อนร่างกาย ยืดเหยียด อย่างเหมาะสม ระยะห่างของแต่ละช่วงของการยืดเหยีดตามเวลาละหมาดนั้นจะช่วยให้ไม่เกิดภาวะนั่งนานเกินไป ในช่วงระหว่างวัน และ ได้บริหารข้อเข่า เส้นต่างๆตามความเหมาะสม นอกจากนี้ ในช่วงที่ มุสลิมก้น สุดยูดนั้น จะทำให้เกิดภาวะที่ เราเชื่อมโยงกับโลก และ รับรู้ว่า ตัวเรานั้น เล็กน้อยเพียงไหน เมื่อเทียบกับโลกและจักรวาลนี้ และไม่จำเป็นต้องแบกรับอะไรที่เกินกว่าสิ่งที่เราจะทำได้

4.รู้จักตัวเอง เมื่อละหมาดเสร็จแล้วจะเป็นช่วงที่มุสลิมจะได้ สิทธิในการขอพร การขอพรในศาสนาอิสลามนั้น มุสลิมทุกคนจะตระหนักว่า การจะได้รับหรือไม่ได้รับนั้น ผู้เป็นมุสลิมต้องลงมือกระทำ สิ่งต่างๆด้วยตัวเองด้วย ดังอายะห์อัลกุรอาน


“..แท้จริงอัลลอฮฺจะมิทรงเปลี่ยนแปลงสภาพของชนกลุ่มใด จนกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงสภาพของพวกเขาเอง..”
อัร-เราะอฺด์ :11



การให้หรือไม่ให้มนุษย์ไม่มีทางรู้ เพราะเป็นเอกสิทธิของอัลลอฮ์ แต่ทันที ที่ผู้เป็นมุสลิมขอพรนั้น ตัวของเค้าจะได้คุยกับจิตใต้สำนึกของตัวเอง ได้พูดคุยกับ ตัวเองอย่างเงียบๆว่าจริงๆแล้ว เราต้องการอะไร หลายครั้งที่เราทะเลาะกับครอบครัวในเรื่องเล็กน้อย แต่เมื่อเราขอพร เรากลับขอให้ครอบครัวสุขภาพแข็งแรง มีความสุข เรื่องเงินทองที่เคยมคิดว่าสำคัญแต่เมื่อเราขอพรกลับแทบไม่มีเรื่องเหล่านี้นอกจากให้คนรอบข้างมีความสงบสุข  การขอพรเหล่านี้ จะทำให้ จิตใต้สำนึก และจิตเหนือสำนึกของผู้เป็นมุสลิม  สอดคล้องสำพันธ์กัน ไม่ขัดแย้งกัน และช่วยให้ มีบุคลิกอยู่กับร่องกับรอย ป้องกัน ปัญหาทางจิตเวช โดยเฉพาะ ที่เกิดจากภาวะจิตใต้สำนึก กับจิตเหนือสำนึกนั้นไม่สัมพันธ์กัน  การขอพรช่วยให้ผู้เป็นมุสลิมรู้จักตัวเองทันที ที่ขอ   และ ถ้าการขอเป็นระบบระเบียบมากขึ้น ก็จะช่วยให้ ผู้เป็นมุสลิมพัฒนาบุคลิกตัวเองได้เหมาะสมขึ้น

5.ปล่อยวาง เมื่อขอพรแล้ว มุสลิมทุกคนย่อมตระหนักว่า สิทธิในการให้นั้น เป็นของอัลลอฮ์ มุสลิม ย่อมต้องปล่อยวางผลของการขอและมอบหมายให้กับอัลลอฮ์ (ตะวักกัร) นั่นคือ ผู้เป็นมุสลิมจะตระหนักว่า ต่อให้เราอยากได้สิ่งเหล่านี้ มากแค่ไหน ท้ายที่สุดเราก็ควบคุมไม่ได้ นอกจากทำให้ดีที่สุด ที่เหลือ ผลลัพธ์ไม่ใช่ สิ่ง และหน้าที่ที่เราจะควบคุม ขั้นตอนนี้จะช่วยให้มุสลิมปล่อยวาง ลง และ คืนการควบคุมโลกทั้งใบ ควบคุมชีวิต กลับสู่อัลลอฮ์ และ เมื่อ ปล่อยวางความควบคุมได้ ความสงบจากการรู้จักตัวเอง และ ปล่อยวางสิ่งต่างๆจะเข้ามาแทนที่นั่นเอง

6.สงบ ในช่วงสุดท้ายมุสลิมที่มีเวลา อาจจะนั่งต่อเงียบๆเพื่อระลึกถึงอัลลอฮ์ รวบสมาธิที่ฟุ้งซ่านให้สงบลง หรือ เพียงลุกขึ้นไปทำหน้าที่ต่อ ทั้งนี้ก็แล้วแต่ มุสลิมท่านนั้นๆจะออกแบบ การละหมาดของตัวเอง

ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นใน 3 นาที -10 นาที ต่อครั้ง

การได้ สะอาดยืดเส้นยืดสาย ทบทวนศีลธรรม รู้จักตัวเอง และ ปล่อยวางโลกไว้เบื้องหลัง และอยู่กับความสงบสุขนั้น เป็นสิ่งที่ศาสนาอิสลาม ขอให้ผู้เป็นมุสลิม ทำอย่างน้อยวันละห้าครั้ง ทั้งนี้ เพราะ อิสลามให้ความสำคัญ กับความสงบสุข และ ผู้ที่สงบสุขนั้น ย่อมสร้าง สิ่งทีดีต่อตัวเอง ครอบครัว และสังคมต่อไป   นั่นเป็นเหตุผลที่มุสลิมให้ความสำคัญกับการละหมาด นั่นเอง

หวัง่วา การแบ่งปันนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนสมาชิกนะครับ


ArayaWeddingPlanner

ArayaWeddingPlanner

www.arayaweddingplanner.com

0 Comments

ใส่ความเห็น

Avatar placeholder