การกล่าวธรรมโอวาทในงานแต่งงานอิสลาม หรือ ที่เรียว่า คุตะห์บะฮ์นิกะห์ นั้น เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญที่เกิดขึ้น ในขั้นตอนการแต่งงานอิสลาม  การกล่าวธรรมโอวาท มีเป้าหมาย เพื่อให้ความรู้ แง่คิด หลักการครองเรือนให้กับบ่าวสาว เพื่อให้รู้ หน้าที่ สิทธิ ที่ปฏิบัติต่อกัน คุณธรรมครองเรือนที่ควรมีต่อกัน เพื่อให้ครอบครัวที่ กำลังจะเกิดขึ้นนี้มีความสงบสุข ตามหลักการของศาสนาอิสลาม

หัวข้อนี้ประกอบด้วย

  • ทำไมการกล่าวธรรมโอวาทนิกะห์สำคัญอย่างไร
  • ปัญหาการกล่าวโอวาทที่ไม่น่ารัก
  • คุณลักษณะของผู้กล่าวธรรมโอวาทในงานนิกะห์ที่มีครอบครัวต่างศาสนา
  • ลำดับการกล่าวธรรมโอวาทในงานนิกะห์ที่มีครอบครัวต่างศาสนา
  • ข้อสรุป

ทำไมการกล่าวธรรมโอวาทครั้งนี้ จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก

สิ่งที่น่าสนใจคือ การกล่าว คุตะบะห์นิกะห์ สำหรับผุ้ฟังที่เป็นมุสลิมใหม่ และ มีผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมโดยเฉพาะครอบครัวฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามเข้าร่วมนั้น มีศิลปะที่สำคัญ ที่ต้องให้ความสำคัญและระมัดระวังเพิ่มเติม เนื่องความแตกต่างทางศาสนาวัฒนธรรม ความเชื่อ ความรู้สึก ชอบหรือไม่ชอบต่อในความแตกต่างศาสนากันนั้น  เมื่อพิจารณาในหลายประเด็นแล้ว   การคุตะบะห์ ครั้งนี้จึงไม่ได้มีความสำคัญเพียง การให้บ่าวสาวเข้าใจเกี่ยวกับหลักการครองเรือนตามหลักการศาสนาอิสลามอย่างเดียว แต่มีเรื่องการปรับความเข้าใจโดยรวม และสร้างความเข้าใจอันดีระหว่าง สองครอบครัวที่แตกต่างทางศาสนากันด้วย 

เมื่อพิจรณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ในหลายครั้งของการ แต่งงานอิสลามในลักษณะนี้  อาจเป็นโอกาสแรก และโอกาสเดียว ที่ครอบครัวที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามนั้น จะเข้ามาฟังว่าศาสนาอิสลามสอนอะไร อย่างตั้งใจ เนื่องจากลูกชาย หลานชาย หรือ ลูกสาว หลานสาว กำลังจะแต่งงานเข้ามาใช้ชีวิตตามหลักการศาสนาอิสลาม เปลี่ยนเข้ามาเป็นมุสลิม การกล่าวธรรมโอวาทครั้งนี้จึงมีความสำคัญมากขึ้นไปอีก ที่จะนำไปสู่ความเข้าใจอันดี หรือสร้างความร้าวฉานขึ้นในครอบครัว

เมื่อพิจรณาตามหลัก จากหนังสือ Crucial Conversation (Kerry Patterson) การกล่าวธรรมโอวาทงานนิกะห์ เป็นการกล่าวที่มีองค์ประกอบสำคัญ อยู่ครบ นั่นคือ

  • ผู้ฟังมีความเห็นที่แตกต่างกัน จากวัฒนธรรมศาสนา ความเชื่อที่ต่างกัน
  • การฟังครั้งนี้เป็นการฟัง ที่มีส่วนได้ส่วนเสียสูง มีการเปลี่ยนแปลงสูง เช่นลูกสาวเปลี่ยนวัฒนธรรม ลูกชายแต่งกับคนต่างวัฒนธรรม
  • อยู่ในอารมณ์ที่รุนแรง (ตื่นเต้น กังวล โกรธ มีความสุขล้น)

ซึ่งองค์ประกอบนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า การสื่อสาร ครั้งนี้เป็นเป็นการสื่อสารครั้งสำคัญของทั้งสองครอบครัว และ ผู้กล่าวธรรมโอวาทเป็นตัวแทนครอบครัวในการสื่อสารต่อส่วนรวม

ปัญหาจากการกล่าวธรรมโอวาทที่ไม่น่ารัก

อย่างไรก็ดี กลับพบว่าโดยทั่วไป ตามสุเหร่า หรือ บ้าน หรือ สถานที่ต่างๆ  กิจกรรมนี้ กลับล้มเหลว หรือไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เช่น ปัญหา เนื่องจากรูปแบบการกล่าวธรรมโอวาทที่ใช้แนวคิดว่า ผู้ฟังทุกคนเป็นมุสลิม (หรือต่อให้ไม่ใช่มุสลิมก็ต้องฟังแบบมุสลิม) การมีอคติต่อผู้ฟังที่ต่างศาสนา  การยกศาสนาอิสลามกดข่มศาสนาอื่นระหว่างธรรมโอวาท   การมีอคติต่อต่างศาสนิกของผู้กล่าวธรรมโอวาท  การมีอคติและไม่วางใจต่อคู่สมรสที่มาจากต่างศาสนา แม้แต่การพูดนอกเรื่องนำเรื่องเพศที่สามการเมือง อื่นๆมาพูด  หรือแม้แต่พูดเรื่องยกยอตัวเอง   ทั้งหมดนี้ นำไปสู่ความ เข้าใจผิด ความร้าวฉาน ขึ้นในครอบครัว จากที่ ความสัมพันธ์ดีมาก่อน กลับเสียหายขึ้น จากผู้พูดที่พูดเพียงไม่ถึง สิบห้านาที

เพื่อเลี่ยงความไม่น่ารักนี้ ทางผมได้พัฒนาแนวทางสำหรับผู้กล่าวธรรมโอวาทที่ดี สำหรับบ่าวสาวผูเป็นมุสลิมใหม่ และมีครอบครัวต่างศาสนาเข้าร่วมไว้ดังนี้

คุณลักษณะ ผู้กล่าวธรรมโอวาท สำหรับผู้ฟังและครอบครัวที่เป็นมุสลิมใหม่

ข้อแรกการเลือกผู้กล่าวธรรมนั้น ต้องเป็นผู้ที่เรามีความแน่ใจว่า เบื้องลึกในจิตใต้สำนึก ต้องไม่มีอคติต่อคนต่างศาสนา หรือ คิดว่าตัวเองนั้นดีอยู่คนเดียว ต้องมีมิตรไมตรี ให้เกียรติผู้นับถือศาสนาอื่น รวมทั้งผู้ไม่นับถือศาสนาและ ไม่ตัดสินคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่มุสลิม การให้เกียรตินี้ จากจิตใต้สำนึกนี้ไม่สามารถปิดบังอำพรางได้ เพราะถ้า ผู้กล่าวธรรมโอวาท มีจิตใจที่ คอยตัดสินคนอื่นๆหรือศาสนาอื่นๆ แม้เพียงเล็ก บรรยากาศโดยรวมก็จะมีปัญหาตามมา  การมีมารยาทอันดีและศีลธรรมอันดีนั้น เป็นเบื้องแรกที่สำคัญ

ข้อสอง ผู้กล่าวธรรมโอวาทต้องมีความรู้ความเข้าใจ ในหลักการศาสนาอิสลามอันดี ทั้งในเรื่องเป้าหมายการแต่งงาน การครองเรือนที่ดีตามหลักการศาสนาอิสลาม สิทธิ และหน้าที่ ของแต่ละฝ่าย และต้องมีศิลปะ การสื่อสาร ในหัวข้อที่สำคัญ กระชับ และมีความรู้ประสบการณ์กว้างขวางในหัวข้อ การครองเรือนและการแต่งงาน เพื่อ ให้การกล่าวนั้น ถึงผู้รับสารตามความเหมาะสม

ข้อสาม ผู้กล่าวธรรมโอวาทนั้นต้องมีความเข้าใจข้อกังวล ของผู้ใหญ่ฝ่ายที่ไม่ได้เป็นมุสลิม อย่างดี ว่ามีข้อกังวลในเรื่องอะไร และต้องเข้าใจข้อกังวลของฝ่ายผู้ใหญ่ที่เป็นมุสลิมด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อให้สามารถที่จะกล่าวธรรมโอวาทแทนครอบครัวทั้งสองฝ่าย และ ช่วยให้คลายข้อกังวลนั้นๆได้

ลำดับการกล่าวธรรมโอวาท ในการนิกะห์ สำหรับครอบครัวมุสลิมใหม่

ขั้นตอนการกล่าวธรรมโอวาทที่ได้ออกแบบไว้ และส่งผลดีนั้น มีด้วยกันดังนี้

1 สร้างเป้าหมายหลักของการสื่อสารในครั้งนี้ ทั้งสองครอบครัวแม้จะมีความเห็นต่างกันแต่งทั้งสองครอบครัว มีเป้าหมายร่วมกันนั้นคือ การที่บ่าวสาวได้ครองเรือนอย่างสงบสุข ดังนั้นควร เริ่มด้วยเป้าหมายของการแต่งงานอิสลามตามอายะห์อัลกุรอาน ต่อไปนี้

وَمِنْ ءَايَـٰتِهِۦٓ أَنْ خَلَقَ لَكُم مِّنْ أَنفُسِكُمْ أَزْوَٰجًۭا لِّتَسْكُنُوٓا۟ إِلَيْهَا وَجَعَلَ بَيْنَكُم مَّوَدَّةًۭ وَرَحْمَةً ۚ إِنَّ فِى ذَٰلِكَ لَـَٔايَـٰتٍۢ لِّقَوْمٍۢ يَتَفَكَّرُونَ ٢١

(30:21) And of His Signs is that He has created mates for you from your own kind28 that you may find peace in them29 and He has set between you love and mercy.30 Surely there are Signs in this for those who reflect.

[21] และหนึ่งจากสัญญาณทั้งหลายของพระองค์คือ ทรงสร้างคู่ครองให้แก่พวกเจ้าจากตัวของพวกเจ้าเอง เพื่อพวกเจ้าจะได้มีความสุขอยู่กับนาง และทรงให้มีความรักใคร่และความเมตตาระหว่างพวกเจ้า แท้จริงในการนี้ แน่นอน ย่อมเป็นสัญญาณแก่หมู่ชนผู้ใคร่ครวญ

Quran 30:21



2.กล่าวทักทายแขก ทุกๆศาสนา  กล่าวถึงความยินดีต้อนรับ กล่วเชื่อมโยงทั้งสองครอบครัวแม้จะต่างศาสนา กล่าวเชื่อมโยงข้อกังวลของผู้ใหญ่แต่ละฝ่ายให้กับบ่าวสาว อย่างมีความเข้าอกเข้าใจ และมีศิลปะ รวมทั้งการกล่าวถึงหน้าที่ ของบ่าวสาวที่ยังต้อง ดูแลเครือญาติ ทั้งสองฝ่ายให้ดีและให้มากกว่าเดิม

3.กล่าวเกี่ยวกับ หลักศาสนา องค์ประกอบการแต่งงาน  สิทธิ และหน้าที่ของแต่ละฝ่าย ที่พึ่งมีต่อกัน

4.กล่าวเกี่ยวกับศิลปะการครองเรือนสั้นๆ ตามความรู้ปัจจุบันหรือ ศิลปะประวัติศาสตร์การครองเรือนตามหลักศาสนาอิสลาม กล่าวถึงการเริ่มต้นชีวิตคู่และการรับบททดสอบร่วมกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุข


5.ปิดจบด้วย เป้าหมายของการแต่งงานอิสลาม อีกครั้ง และย้ำเตือนว่า ถ้าขาดซึ่งความรักความเมตตาต่อกัน แสดงว่าเรากำลังเดินมาผิดทาง พร้อมขอความจำเริญให้กับบ่าวสาวและครอบครัว

โดยให้มีความกระชับ ไม่เยิ้นเย้อ และ ดูความเหมาะสม ของแขกที่เข้ามาเป็นผู้ฟัง และต้องหมั่นสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเอง ไม่เป็นทางการเกินไป อบอุ่น เหมือนเป็นกิจกรรมในครอบครัว

ข้อสรุป การกล่าวธรรมโอวาทงานนิกะห์ ครอบครัวต่างศาสนา

ทั้งหมดนี้คือแนวทางศิลปะการกล่าวธรรมโอวาทที่บริษัทอารยา นิกะห์ แพลนเนอร์ แอนด์คอนเซาท์ ได้ทดสอบแล้วว่าได้ผลดีอย่างมากต่อครอบครัวที่มีความแตกต่างทางศาสนากัน  การให้เกียรติซึ่งกันและกัน การไม่ตัดสิน การส่งต่อสิ่งที่ดีต่อกัน ทั้งหมดนี้เป็นหน้าที่ของ ผู้กล่าวธรรมโอวาท จะทำให้เกิดความดีงามขึ้นในงานแต่งงานอิสลามที่มีที่มาจากครอบครัวต่างศาสนาและ ช่วยทำให้ผุ้ที่ไม่ใช่มุสลิมนั้นเข้าใจ วิถีชีวิตและเป้าหมายการครองเรือนของผู้เป็นมุสลิม รวมทั้ง ได้ช่วยมุสลิมเดิมให้ทบทวนเป้าหมายของการแต่งงาน นั้นคือ การได้แสดงความรัก และความเมตตาต่อกัน ระหว่างหนุ่มสาวและ การแต่งงานในศาสนาอิสลาม เป็นครอบครัวที่ชายและหญิงสามารถที่จะออกแบบพื้นที่ปลอดภัยได้ในรูปแบบของตัวเองนั่นเอง

หวังว่า ข้อคิดนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ทำหน้าที่กล่าวธรรมโอวาทในการแต่งงานอิสลามนะครับ



ArayaWeddingPlanner

ArayaWeddingPlanner

www.arayaweddingplanner.com

0 Comments

ใส่ความเห็น

Avatar placeholder